วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2552

ล้างพิษง่ายๆ ด้วยน้ำแร่ธรรมชาติ


..........สำหรับการล้างพิษนั้นสามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่เป็นธรรมชาติที่สุดและสามารถทำได้ด้วยตัวเองก็คือการล้างพิษด้วยการดื่มน้ำ เราทราบกันดีแล้วว่า น้ำเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นคืนสภาพและปรับกลไกการทำงานของระบบสู่สภาวะปกติ โดยดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วต่อวัน ที่สำคัญควรจะเลือกดื่มน้ำแร่ที่คงความบริสุทธิ์จากธรรมชาติเพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด น้ำแร่เอเวียง จึงขอนำเสนอการล้างพิษน้ำด้วยแร่ธรรมชาติ 5 ขั้นตอนง่ายๆ ดังต่อไปนี้

1.ให้ความชุ่มชื่นแก่ร่างกายดื่มน้ำให้มากๆ อย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร เพราะจะช่วยทำความสะอาดระบบภายในร่างกายและขับออกสู่ภายนอก เลือกดื่มน้ำแร่ธรรมชาติเอเวียงจะทำให้ร่างกายได้รับคุณประโยชน์สูงสุดเพราะเป็นน้ำแร่บริสุทธิ์ที่ผ่านการกลั่นกรองจากชั้นหินที่อุดมด้วยแร่ธาตุในเทือกเขาแอลป์ ทำให้ร่างกายและจิตใจรู้สึกสดใสอ่อนเยาว์ ช่วยฟื้นฟูร่างกายได้เร็วขึ้น

2.เปลี่ยนนิสัยการรับประทานรับประทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเลือกแต่อาหารธรรมชาติที่ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป และกำจัดอาหารขยะออกไปจากชีวิต เพราะอาหารขยะมีสารเคมีและวัตถุกันเสียที่ร่างกายไม่ต้องการ อีกทั้งยังไม่มีคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย แคลอรีที่ร่างกายได้รับจึงเป็นแคลอรีไร้ประโยชน์

3.นอนหลับเพื่อความงามนอนหลับให้ได้ 6-8 ชั่วโมงในแต่ละคืน เพราะเป็นโอกาสที่ร่างกายจะได้พักผ่อนและได้รับการฟื้นฟู พยายามอย่านอนดึก และอย่าลืมดื่มน้ำแร่ธรรมชาติเอเวียงก่อนเข้านอน และดื่มอีกครั้งแก้วใหญ่ๆ เต็มๆ สักแก้วเมื่อเริ่มต้นเช้าวันใหม่

4.ฟิตร่างกายการออกกำลังจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และช่วยรักษารูปร่าง ออกกำลังกายแต่พอดี อย่าหักโหมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่คุณกำลังล้างพิษ และควรดื่มน้ำแร่ธรรมชาติเอเวียงก่อนและดื่มเป็นระยะๆ ตลอดการออกกำลังกาย

5.ปลุกความสดใสให้ผิวพรรณเมื่อไรก็ตามที่คุณละเลยการดูแลตัวเอง ผิวของคุณก็จะฟ้อง การล้างพิษจะช่วยให้ของคุณกลับมาเปล่งปลั่งสดใสดังเดิม ใช้สเปรย์น้ำแร่พ่นเบาๆ ให้ทั่วผิวหน้าจะช่วยเพิ่มความสดใสมีชีวิตชีวาและยังช่วยให้เครื่องสำอางของคุณติดทนนานตลอดวัน

ล้างพิษง่ายๆ ด้วยน้ำแร่ธรรมชาติ


........สำหรับการล้างพิษนั้นสามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่เป็นธรรมชาติที่สุดและสามารถทำได้ด้วยตัวเองก็คือการล้างพิษด้วยการดื่มน้ำ เราทราบกันดีแล้วว่า น้ำเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นคืนสภาพและปรับกลไกการทำงานของระบบสู่สภาวะปกติ โดยดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วต่อวัน ที่สำคัญควรจะเลือกดื่มน้ำแร่ที่คงความบริสุทธิ์จากธรรมชาติเพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด น้ำแร่เอเวียง จึงขอนำเสนอการล้างพิษน้ำด้วยแร่ธรรมชาติ 5 ขั้นตอนง่ายๆ ดังต่อไปนี้

1.ให้ความชุ่มชื่นแก่ร่างกายดื่มน้ำให้มากๆ อย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร เพราะจะช่วยทำความสะอาดระบบภายในร่างกายและขับออกสู่ภายนอก เลือกดื่มน้ำแร่ธรรมชาติเอเวียงจะทำให้ร่างกายได้รับคุณประโยชน์สูงสุดเพราะเป็นน้ำแร่บริสุทธิ์ที่ผ่านการกลั่นกรองจากชั้นหินที่อุดมด้วยแร่ธาตุในเทือกเขาแอลป์ ทำให้ร่างกายและจิตใจรู้สึกสดใสอ่อนเยาว์ ช่วยฟื้นฟูร่างกายได้เร็วขึ้น

2.เปลี่ยนนิสัยการรับประทานรับประทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเลือกแต่อาหารธรรมชาติที่ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป และกำจัดอาหารขยะออกไปจากชีวิต เพราะอาหารขยะมีสารเคมีและวัตถุกันเสียที่ร่างกายไม่ต้องการ อีกทั้งยังไม่มีคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย แคลอรีที่ร่างกายได้รับจึงเป็นแคลอรีไร้ประโยชน์

3.นอนหลับเพื่อความงามนอนหลับให้ได้ 6-8 ชั่วโมงในแต่ละคืน เพราะเป็นโอกาสที่ร่างกายจะได้พักผ่อนและได้รับการฟื้นฟู พยายามอย่านอนดึก และอย่าลืมดื่มน้ำแร่ธรรมชาติเอเวียงก่อนเข้านอน และดื่มอีกครั้งแก้วใหญ่ๆ เต็มๆ สักแก้วเมื่อเริ่มต้นเช้าวันใหม่

4.ฟิตร่างกายการออกกำลังจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และช่วยรักษารูปร่าง ออกกำลังกายแต่พอดี อย่าหักโหมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่คุณกำลังล้างพิษ และควรดื่มน้ำแร่ธรรมชาติเอเวียงก่อนและดื่มเป็นระยะๆ ตลอดการออกกำลังกาย

5.ปลุกความสดใสให้ผิวพรรณเมื่อไรก็ตามที่คุณละเลยการดูแลตัวเอง ผิวของคุณก็จะฟ้อง การล้างพิษจะช่วยให้ของคุณกลับมาเปล่งปลั่งสดใสดังเดิม ใช้สเปรย์น้ำแร่พ่นเบาๆ ให้ทั่วผิวหน้าจะช่วยเพิ่มความสดใสมีชีวิตชีวาและยังช่วยให้เครื่องสำอางของคุณติดทนนานตลอดวัน

การล้างพิษด้วยน้ำ


.........ล้างพิษง่ายๆ ด้วยน้ำแร่ธรรมชาสำหรับการล้างพิษนั้นสามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่เป็นธรรมชาติที่สุดและสามารถทำได้ด้วยตัวเองก็คือการล้างพิษด้วยการดื่มน้ำ เราทราบกันดีแล้วว่า น้ำเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นคืนสภาพและปรับกลไกการทำงานของระบบสู่สภาวะปกติ โดยดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วต่อวัน ที่สำคัญควรจะเลือกดื่มน้ำแร่ที่คงความบริสุทธิ์จากธรรมชาติเพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด น้ำแร่เอเวียง จึงขอนำเสนอการล้างพิษน้ำด้วยแร่ธรรมชาติ 5 ขั้นตอนง่ายๆ ดังต่อไปนี้

1.ให้ความชุ่มชื่นแก่ร่างกายดื่มน้ำให้มากๆ อย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร เพราะจะช่วยทำความสะอาดระบบภายในร่างกายและขับออกสู่ภายนอก เลือกดื่มน้ำแร่ธรรมชาติเอเวียงจะทำให้ร่างกายได้รับคุณประโยชน์สูงสุดเพราะเป็นน้ำแร่บริสุทธิ์ที่ผ่านการกลั่นกรองจากชั้นหินที่อุดมด้วยแร่ธาตุในเทือกเขาแอลป์ ทำให้ร่างกายและจิตใจรู้สึกสดใสอ่อนเยาว์ ช่วยฟื้นฟูร่างกายได้เร็วขึ้น

2.เปลี่ยนนิสัยการรับประทานรับประทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเลือกแต่อาหารธรรมชาติที่ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป และกำจัดอาหารขยะออกไปจากชีวิต เพราะอาหารขยะมีสารเคมีและวัตถุกันเสียที่ร่างกายไม่ต้องการ อีกทั้งยังไม่มีคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย แคลอรีที่ร่างกายได้รับจึงเป็นแคลอรีไร้ประโยชน์

3.นอนหลับเพื่อความงามนอนหลับให้ได้ 6-8 ชั่วโมงในแต่ละคืน เพราะเป็นโอกาสที่ร่างกายจะได้พักผ่อนและได้รับการฟื้นฟู พยายามอย่านอนดึก และอย่าลืมดื่มน้ำแร่ธรรมชาติเอเวียงก่อนเข้านอน และดื่มอีกครั้งแก้วใหญ่ๆ เต็มๆ สักแก้วเมื่อเริ่มต้นเช้าวันใหม่

4.ฟิตร่างกายการออกกำลังจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และช่วยรักษารูปร่าง ออกกำลังกายแต่พอดี อย่าหักโหมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่คุณกำลังล้างพิษ และควรดื่มน้ำแร่ธรรมชาติเอเวียงก่อนและดื่มเป็นระยะๆ ตลอดการออกกำลังกาย

5.ปลุกความสดใสให้ผิวพรรณเมื่อไรก็ตามที่คุณละเลยการดูแลตัวเอง ผิวของคุณก็จะฟ้อง การล้างพิษจะช่วยให้ของคุณกลับมาเปล่งปลั่งสดใสดังเดิม ใช้สเปรย์น้ำแร่พ่นเบาๆ ให้ทั่วผิวหน้าจะช่วยเพิ่มความสดใสมีชีวิตชีวาและยังช่วยให้เครื่องสำอางของคุณติดทนนานตลอดวัน

วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2552


เปลี่ยนวิถีชีวิตการกินด้วยเส้นใยอาหาร
เปลี่ยนวิถีชีวิตการกินด้วยเส้นใยอาหาร( บทความบริการวิชาการประจำเดือน กรกฏาคม 2549 ) จากสภาพสังคมเมือง ที่กลายเป็นครอบครัวเดี่ยว พ่อ แม่ ต้องทำงานเพื่อให้มีรายได้เพียงพอ หรืออยู่รอดภายใต้สภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้แม่บ้านที่เคยดูแลอาหารการกินของครอบครัว ต้องหันมาเป็นแม่บ้านถุงพลาสติค ชีวิตที่เร่งรีบ อาหารจานด่วน การกินอาหารแบบสังคมตะวันตกจึงเกิดขึ้น ไม่แปลกใจเลยว่าโรคที่เกิดขึ้นบ่อยๆในสังคมตะวันตก กลายมาเป็นปัญหาร้ายของสังคมบ้านเราได้ เช่นโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่จึงเกิดขึ้นเรื่องนี้เป็นภัยร้ายที่คุกคามชีวิต แต่เป็นโรคที่ป้องกันได้ ถ้าคุณเห็นความสำคัญ มีความตระหนักและสามารถปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ได้ ดังที่กล่าวมาแล้วว่า โรคเหล่านี้สามารถป้องกันได้ โดยการเปลี่ยนวิถีชีวิตโดยเฉพาะการกิน และการขับถ่าย โดยหันมากินอาหารที่มีเส้นใย ผัก ผลไม้ เมล็ดธัญพืช เหมือนกับครั้งสมัยปู่ ย่า ตา ทวดของเรา และลดการกินเนื้อสัตว์ ก็จะช่วยชลอความเสื่อมของร่างกายได้ เช่นลดไขมันในเลือด ป้องกันท้องผูก เบาหวาน ความดันเลือดสูง เป็นต้น จึงขอเชิญชวนท่านมาศึกษาคุณประโยชน์ของเส้นใยอาหารเส้นใยอาหารคืออะไรเส้นใยหรือไฟเบอร์ อาหาร ส่วนใหญ่เราจะได้จากส่วนโครงสร้างของพืช เช่น กิ่ง ก้าน เมล็ด เป็นส่วนที่ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายได้มีอีกชื่อหนึ่งว่าเซลลูโลส ซึ่งมีโครงสร้างประกอบไปด้วยโมเลกุลน้ำตาลมาต่อกันอย่างซับซ้อน เส้นใยอาหารจะไม่โดนย่อยด้วยกรดในกระเพาะอาหารและเอนไซม์ในลำไส้เล็ก มันจึงเป็นกากที่จะไปเบียดบังพื้นที่ในระบบทางเดินอาหาร เวลารับประทานเข้าไปจึงรู้สึกอิ่ม อีกทั้งมันเป็นสารที่ไม่ให้พลังงาน เมื่อรับประทานเข้าไปจึงไม่ก่อให้เกิดพลังงานส่วนเกิน แต่ในทางตรงข้ามมันกลับไปช่วยขัดขวางการดูดซึมไขมันและ คลอเลสเทอรอลอีกด้วย นอกจากนี้มันยังช่วยป้องกันหรือลดความเสี่ยงจากโรค มะเร็ง ลดอัตราเสี่ยงจากไขมันอุดตันหลอดเลือดช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และเนื่องจากมันช่วยในเรื่องระบบการขับถ่ายให้ดีขึ้นนั่นเองมันจึงช่วยบรรเทาอาการ ท้องผูก ริดสีดวงทวาร ด้วย เส้นใยอาหารแบ่งได้ 2 ชนิดคือ 1.เส้นใยชนิดที่ไม่ละลายน้ำ เป็นเส้นใยพวกเซลลูโลส เฮมิเซลลูโลส และลิกนิน ส่วนมากได้จากเมล็ดพืช เช่น รำข้าว รำข้าวสาร สารเส้นใยชนิดนี้จะอุ้มน้ำ และไม่ถูกย่อย เวลากินเข้าไปจะผ่าน ไปตามลำไส้เฉยๆ มีประโยชน์ป้องกันมะเร็งและปกป้องลำไส้ให้มีสุขภาพดี
2.เส้นใยชนิดที่ละลายน้ำได้ เป็นสารเส้นใยที่ปะปนอยู่กับส่วนที่เป็นแป้งของพืชจึงละลายน้ำได้ เวลาละลายน้ำจะเห็นเป็นลักษณะเมือกๆ เป็นเส้นใยพวก เปกติน กัม และมิวซิเลจ พบมากในผลไม้ ถั่ว ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ สามารถลดไขมัน ในเส้นเลือด และลดน้ำตาลในเลือด ในกรณี ที่เป็นเบาหวานประโยชน์ของเส้นใยต่อร่างกาย ผลต่อ คลอเลสเทอรอล และ โรคหัวใจ
จากหลายๆการศึกษาวิจัยพบว่าเส้นใย ชนิดที่ละลายน้ำสามารถป้องกันไม่ให้เกิดการพอกพูนของตะกรันไขมันในหลอดเลือด โดยการดูดซับปริมาณคลอเลสเทอรอลลง เมื่อไขมันในเลือดต่ำ โอกาสที่จะเกิดอาการตีบของหลอดเลือดหัวใจก็มีน้อยลงได้โดยเส้นใย แต่ยังไม่เพียงพอที่จะรับประทานแทนยารักษาได้ และยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัดเช่นกัน อย่างไรก็ตามเส้นใยที่ไม่ละลายน้ำจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิด โรคหัวใจ ผลต่อโรค เบาหวาน
สาเหตุหลักๆของการเกิดเบาหวาน คือเกิดจากกรรมพันธุ์ และการบริโภคน้ำตาลมากเป็นเวลานาน ซึ่งพบว่าการกินอาหารที่เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวจะทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลเข้าไปล้นเกิน ระดับน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มสูงขึ้นทันที ความต้องการอินซูลินจึงเพิ่มมากขึ้น แต่ในขณะที่กินอาหารคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน (อาหารที่มีเส้นใยสูงโดยเฉพาะเส้นใยที่ละลายน้ำได้) การย่อย การดูดซึมต้องใช้เวลานานกว่ามาก จะ ทำให้ความทนทานต่ออาหารคาร์โบไฮเดรต ดีขึ้น ทำให้ร่างกายสามารถผลิตอินซูลินขึ้นมารับพอดี ระดับน้ำตาลในเลือดจึงต่ำลง และสามารถลดปริมาณยาที่ใช้ลง พบว่ามีผู้ป่วยเบาหวาน 2 ใน 3 สามารถลดอินซูลินชนิดฉีดลงด้วยการกินอาหารที่มีเส้นใยสูง และยังค้นพบอีกว่าคนที่รับประทานเส้นใยมากๆ จะช่วยลดโอกาสการเป็น เบาหวาน
ผลต่ออาการท้องผูก-มะเร็งลำไส้ การรับประทานเส้นใยชนิดที่ไม่ละลายน้ำ ช่วยให้การเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหารดีขึ้น ส่งผลให้ร่างกายมีการขับถ่ายดีขึ้น ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก อาหารที่มีเส้นใยสูงจะทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว และอิ่มทนกว่าอาหารที่มีเส้นใยต่ำเพราะการย่อยใช้เวลานานกว่า และการดูดซึมก็เป็นไปอย่างช้าๆ เส้นใยช่วยเพิ่มปริมาณของอุจจาระจึงกระตุ้นให้ลำไส้ใหญ่ทำงานดีขึ้น การกินอาหารโปรตีนสูงและการกินไขมันสัตว์ ซึ่งเป็นอาหารที่มีเส้นใยน้อย จะทำให้มีสารก่อมะเร็งตกค้างอยู่ในลำไส้เป็นเวลานาน กากอาหารจะถูกเก็บกักนาน มีโอกาสดูดซับสารพิษจากของเสียเข้าสู่ร่างกาย นอกจากนี้อาหารที่มีไขมันมาก เกลือของน้ำดีในกากอาหารก็ เพิ่มมากขึ้น ทำให้แบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ย่อยเกลือน้ำดีให้กลายเป็นสารก่อมะเร็ง การกินอาหารที่มีเส้นใยสูง จะไม่เกิดท้องผูก ลำไส้จะขับกากอาหารออกนอกร่างกายเร็วขึ้น และช่วยเจือจางสารก่อมะเร็งในอุจจาระลง ช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ลดความอ้วน เมื่อเรารับประทานเส้นใยอาหารซึ่งเป็นสารที่ไม่ให้พลังงานเข้าไปในร่างกาย มันจะเข้าไปแย่งพื้นที่ในระบบทางเดินอาหาร ลดปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายดูดซึมจากอาหารส่งผลให้เรารู้สึกอิ่มได้เร็วและอิ่มได้นาน นอกจากนี้เส้นใยยังไปแย่งพื้นที่ในระบบทางเดินอาหาร ทำให้ลดความอยากอาหารและรับประทานอาหารได้น้อยลง หากใช้ร่วมกับการควบคุมชนิดและปริมาณอาหาร และออกกำลังกายร่วมด้วยจะยิ่งให้ผลดีในการ ลดน้ำหนัก ถ้าเราสามารถลดพลังงานที่จะได้รับจากอาหารได้จึงส่งผลให้ น้ำหนักลด และผลที่ตามมาคือลดอัตราการเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในหลอดเลือดและโรคหัวใจ มะเร็งเต้านม
เป็นที่ยอมรับว่ามะเร็งเต้านมเกี่ยวข้องโดยตรงกับการกินอาหาร กล่าวคือเมื่อสารพิษจากลำไส้ใหญ่ถูกดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด เนื้อเยื่อของเต้านมจะเก็บกักเอาสารพิษไว้และกลายเป็นมะเร็งในที่สุด การกินอาหารเส้นใยสูงและเร่งการขับอุจจาระออกนอกร่างกายให้เร็วกว่าเดิมจึงเป็นทางที่จะป้องกันมะเร็งเต้านมวิธีหนึ่ง การกินไขมันมากเกินไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมน ทำให้เจ็บเต้านมหรือเป็นก้อนขึ้นมา แหล่งอาหารที่จะได้รับเส้นใย
เราสามารถได้สารเส้นใยอาหารได้จากพวกธัญพืช เช่น ข้าวซ้อมมือ ลูกเดือย ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ผลไม้ทั้งผล (ไม่ใช่น้ำผลไม้) เช่น แอบเปิล ผลไม้ประเภทเบอรี่ ผลส้มแขก เมล็ดแมงลัก ถั่วประเภทนัทส์ ถั่วเมล็ดแห้ง ผักชะอม ดอกกุยฉ่าย คะน้า แครอท มะเขือพวง เห็ดหูหนู เป็นต้น กินเพื่อสุขภาพ ควรกินอย่างไร
จากคำแนะนำของดร.แคทเทอรีน อี โวทกีเกี่ยวกับอาหารเพื่อสุขภาพ พอสรุปได้ดังนี้
1. กินคาร์โบไฮเดรทเชิงซ้อน โดนกินข้าวกล้องวันละ 5 - 12 ส่วน (1 ส่วนเท่ากับ 1 ทัพพีพูนๆ เท่ากับ 100 กรัม) หรือกินขนมปังโฮล์วีท ( 1 แผ่น เท่ากับ 1 ส่วน) เผือก มัน ข้าวโพด
2. กินผักสดและผลไม้สดวันละ 5 ส่วน (1 ส่วนเท่ากับผัก 1 จาน หรือเท่ากับแอบเปิล 1 ลูก หรือเท่ากับผลไม้ลูกใหญ่ที่ปอกแล้วเท่ากับ แอบเปิล 1 ลูก หรือเท่ากับน้ำผลไม้คั้นสด 200 มล. )
3. กินไขมันวันละเพียง 20 % ของแคลอรีทั้งหมด
4. กินเนื้อสัตว์วันละ 100 กรัม แนะนำให้กินเนื้อปลา
5. ปริมาณอาหารที่กินควรแต่พอควร ขึ้นอยู่กับรูปร่างและกิจกรรมในแต่ละวัน
6. แคลเซียมควรได้รับวันละ 400 มิลลิกรัม
7. ไม่กินเค็ม ควรได้เกลือวันละเพียง 6 กรัม
8. ควรเลี่ยงบุหรี่ เหล้า กาแฟ ชาและกลุ่มอาหารขยะทั้งหมด
9.ไม่ควรกินวิตามินและอาหารเสริมเกินความจำเป็น
หมายเหตุ ในรายที่เป็นโรคขาดสารอาหารหรือ วิตามิน หรืออยู่ในระหว่างรับประทานยาบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทาน การกินอาหารที่มีเส้นใย มีผลโดยตรงต่อสุขภาพของลำไส้ใหญ่ อาหารที่ปราศจากเส้นใยทำให้ท้องผูก อุจจาระของคนเราจึงสามารถเป็นตัว บ่งชี้ภาวะสุขภาพได้ อุจจาระ คือกากอาหารที่ถูกถ่ายทิ้ง มีประมาณ 100 กรัมต่อวัน แต่ทั้งนี้ขึ้นกับปริมาณและชนิดของอาหารด้วย อาหารที่มีเส้นใยอาหารมาก จะทำให้มีอุจจาระมาก อุจจาระประกอบด้วยน้ำประมาณ 75 %และของแข็ง 25% ซึ่งได้แก่ CELLULOSE และกากใยที่ย่อยไม่ได้ เกลือ น้ำดี และน้ำย่อยที่หลงเหลือออกมาบ้างเล็กน้อย แคลเซียม ฟอสเฟต มูก เซลล์ที่ลอกหลุดและแบคทีเรีย ดังนั้นแม้จะไม่ได้รับประทานอาหารทางปากเลย ก็ยังมีอุจจาระ อุจจาระที่ดีจะมีลักษณะไม่แข็ง ไม่เหลว สีเหลืองปนน้ำตาล ไม่เป็นก้อนกลมแข็ง แต่เป็นลักษณะเรียวยาว อย่างไรก็ตาม การกินอาหารที่มีเส้นใย นอกจากจะช่วยรักษาสุขภาพและป้องกันโรค แต่การรักษาสุขภาพให้ดีต้องประกอบไปด้วยการออกกำลังกายและวิธีธรรมชาติบำบัด ได้แก่ การล้างพิษ การฝึกจิต - สมาธิให้สงบ เพื่อให้ระบบภูมิต้านทาน (Immune system) ทำงานได้ดีขึ้น จึงต้องเปลี่ยนแนวคิดหลักสุขภาพไทย ที่มีหลักง่ายๆ ชิวีตเรียบๆแบบพอเพียง ดังเช่นอาจารย์บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล ได้เสนอไว้12 ประการ ดังนี้
1. ส่งเสริมวิถีชีวิตอันเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของไทย ด้วยการพึ่งตนเองเป็นหลัก ทำงานขยันขันแข็ง ใช้จ่ายอย่างประหยัดมัธยัสถ์
2. ส่งเสริมวิถีชีวิตแบบสังคมชนบท เกษตรกรรมธรรมชาติแบบผสมผสาน ด้วยการสร้างสังคมระดับหมู่บ้าน ตำบลที่อยู่ใกล้ธรรมชาติ มีระบบการผลิต และหมุนเวียนบริโภคของตนเองและพึ่งตนเองได้
3. กินอย่างไทย ปรุงอาหารกินเองในบ้าน ลดละการกินอาหารตะวันตกและอาหารจีน อย่ากินอาหารจนล้นเกิน กินแต่พออิ่ม เลิกสารปรุงแต่งที่ไม่มีคุณค่าทางอาหาร เช่น ผงชูรส
4. กินข้าวกล้อง หรือข้าวซ้อมมือ แทนการกินข้าวขาว หรืออาหารทำจากแป้งขัดขาว ไม่กินน้ำตาลฟอกขาว ขนมหวาน น้ำอัดลม ไม่ใช้น้ำตาลปรุงอาหารจนมากเกินควร
5. ลดการกินไขมันชนิดที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง ได้แก่ ไขมันจากสัตว์ ใช้น้ำมันพืชแทน
6. ลดการกินเนื้อสัตว์ กินสัตว์น้ำปลอดภัยกว่า
7. กินผักสด และผลไม้สดให้มาก เลือกผักเกษตรธรรมชาติ
8. ไม่กินอาหารขยะ เช่น บะหมี่ซอง ขนมกรุบกรอบ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์
9. ทารกต้องกินนมแม่ รณรงค์ใช้นมถั่วเหลือง รับอาหารจากอาหารพื้นถิ่น
10. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ
11. รู้จักคลายเครียด ฝึกสมาธิ ขัดเกลาความคิดจิตใจ
12. รักษาสุขภาพด้วยตนเอง ใช้ยาเท่าที่จำเป็น พร้อมปรับอาหาร เปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อรักษาโรค
........สุดท้ายขอฝากไว้ว่า ท่านที่เป็นโรคก็มีสุขภาพดีได้ หรือท่านที่ไม่เป็นโรค ก็สุขภาพไม่ดีได้ การเปลี่ยนแปลงวิถีการกิน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพดี และอย่ารอช้าเริ่มปฏิบัติเสียตั้งแต่วันนี้เลยดีไหม ? ……………………………………………………………………………..

วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2552

ปฏิวัติสุขภาพสู่การเป็น "คนใหม่"


..ในชีวิตประจำวันของคนเรานั้นต่างมีพฤติกรรมทำร้ายสุขภาพอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการห่างเหินการออกกำลัง, ดื่มน้ำน้อย, สูบบุหรี่, ปาร์ตี้เป็นนิจสิน ฯลฯ
..เราควรปรับพฤติกรรมแย่ๆ เหล่านั้นเพื่อกลายเป็นคนใหม่ที่มีสุขภาพดีกว่าเดิมเถอะค่ะ

ดื่มน้ำสะอาด 1 แก้ว ในช่วงเช้าเพื่อล้างสิ่งตกค้างภายใน ส่วนคนไหนอยากมีผิวพรรณที่สวยสดใส ควรดื่มน้ำส้มสด 1 แก้ว เพราะวิตามินซีจากน้ำส้มมจะช่วยในการบำรุงเซลล์ผิวค่ะ

..ควรรับประทานอาหารทุกมื้อ โดยเฉพาะอาหารเช้าอันเป็นแหล่งพลังงานสำคัญ ส่วนมื้อกลางวันและมื้อเย็นควรลดปริมาณลงตามความเหมาะสมในการใช้พลังงานค่ะ

..การดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ยังเป็นวิธีที่ดีในการรักษาสมดุลของธาตุในร่างกาย

..ช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การออกกำลังกายที่สุดคือ ช่วงเช้าหลังตื่นนอน เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายได้เผาผลาญได้ดีที่สุด

..อย่าลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารแทนที่จะผอมกลับส่งผลให้ร่างกายขาดภูมิต้านทาน และยังทำให้น้ำหนักไม่ลดอีกด้วย ควรเปลี่ยนมาเลือกบริโภคอาหารที่อุดมด้วยเส้นใย อย่างผักใบเขียว และผลไม้จะดีกว่า ก่อนเข้าห้องน้ำควรล้างมือก่อน 1 ครั้ง เนื่องจากทางการแพทย์วิจัยไว้ว่า การที่เราไม่ล้างมือก่อนทำธุระในห้องน้ำ ทำให้เปอร์เซ็นต์การเกิดมะเร็งปากมดลูกได้มากกว่าคนที่ล้างมือ

..ควรตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพราะสามารถแก้ไขหรือป้องกันก่อนการเกิดมะเร็งได้

..ควรเปลี่ยนการบริโภคข้าวขาว หรือข้าวขัดสีมาเป็นข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือแทน เพราะในข้าวกล้องจะมีไฟเบอร์ที่ช่วยย่อยมากกว่าข้าวขัดสีที่มีแต่แป้ง

ควรพักผ่อนให้เพียงพอ อย่ากรำกับร่างกายจนเกินไป ในกรณีที่มีปาร์ตี้หรืองานสังสรรค์ ถ้าไม่ไหวก็ควรพักผ่อนซะบ้าง

..ควรบริโภคกาแฟไม่ต่ำกว่า 1-2 ถ้วยต่อวัน และหลังจากดื่มแล้ว ควรรีบแปรงฟันทันที เพราะสารคาเฟอีน ในกาแฟจะทิ้งคราบเกาะอยู่ตามฟัน ทำให้สีฟันหมองและเสื่อมลง

..ไม่ยากเกินไปใช่มั๊ยคะ..สำหรับการปฏิวัติสุขภาพเพื่อการเป็นคนใหม เพราะนั้นหมายถึงการฉลาดในการดูแลตัวเองค่ะ

อาหารชะลอวัย ทานแล้วไม่แก่


เรื่องของการ “ชะลอวัย” เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันถึงค่ะ ทำอะไรก็ได้ให้อ่อนเยาว์ได้ตลอด..ขอบอก ผู้หญิงยอมทุกอย่างค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศัลยกรรม , การใช้ครีมบำรุงผิว , การทานอาหาร และการออกกำลังกาย
อาหาร 6 อย่างต่อไปนี้ จะชะลอสัญญาณแห่งวัยชรา , ผมร่วง , ผิวแห้ง , เฉื่อยชา ฯลฯ คุณสามารถดูอ่อนเยาว์ได้ภายใน 3 - 6 เดือน ค่ะ
กล้วย : อุดมไปด้วยวิตามินบี ช่วยหยุดผมร่วง การรับประทานกล้วยในปริมาณที่เพียงพอ จะช่วยรักษาเส้นผมให้เคียงคู่กับศีรษะได้นานวัน
มะม่วง : มีเบต้าแคโรทีนที่ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี โดยช่วยกระตุ้นการสร้างผิวหนัง รวมทั้งหนังศีรษะเพื่อทดแทนของเดิมที่หยาบแห้งและขรุขระ ให้กลับมีความชุ่มชื้นและเนียนนุ่มขึ้นค่ะ
ฝรั่ง : รับประทานฝรั่งหรือดื่มน้ำฝรั่ง ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินซีนั้น จะทำให้เราดูหนุ่มสาวขึ้นค่ะ เพราะฝรั่งจะช่วยเก็บรักษาคอลลาเจนที่เป็นบ่อเกิดแห่งโปรตีนใต้ผิวหนัง หรือคุณอาจจะรับประทานมะละกอ ส้ม ร่วมกับผลไม้ประจำวัน จะเพิ่มวิตามินซีได้เช่นกันค่ะ
ปลาแซลมอน : รับประทานปลาแซลมอน อาหารทะเล หรือสลัดผักสด จะช่วยหยุดการลอกของผิวหนังทำให้สุขภาพแข็งแรงค่ะ
อะโวคาโด : วิตามินบีในอะโวคาโด จะช่วยทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ค่ะ และทำให้ร่างกายเกิดความต้านทานจากการทำลายในรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงแรงต้านทานจากมลภาวะเป็นพิษด้วย
ถั่วลิสงอบเนย : รับประทานถั่วลิสงอบเนยร่วมกับเกล้ดขนมปังที่อบมาร้อนๆ ก่อนมื้ออาหารจะช่วยชะลอผมหงอกได้ค่ะ เพราะถั่วลิสงมีวิตามินที่สามารถหยุดการเปลี่ยนสีผมให้เป็นสีดอกเลาได้ และยังทำให้ผิวหนังดูดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
อย่าลืมว่า..ผู้หญิงทุกคนมีความสวยในรูปแบบของตัวเอง ที่เหลือเพียงแค่เลือกวิธีการดูแลตัวเองอย่างถูกต้องเท่านั้น

การล้างพิษ

การล้างพิษนั้นสามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีธรรมชาติที่สุดและสามารถทำได้ด้วยตัวเองก็คือการล้างพิษด้วยการ "ดื่มน้ำ" เราต่างรู้ดีว่าน้ำเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยร่างกายให้สามารถฟื้นคืนสภาพและปรับกลไกการทำงานของระบบสู่สภาวะปกติ โดยดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วต่อวัน ที่สำคัญควรจะเลือกดื่มน้ำแร่ที่คงความบริสุทธิ์จากธรรมชาติ มาดูกันว่าวิธีล้างพิษด้วยตัวเองนั้นง่ายแสนง่ายเพียงไหน
1. ให้ความชุ่มชื้นกับร่างกาย ด้วยการดื่มน้ำบริสุทธิ์ ไม่ว่ากิจกรรมใดๆ ที่คุณทำทั้งวัน ที่ทำให้คุณสูญเสียพลังงานและขาดน้ำ การทดแทนและขับถ่ายของเสียเหล่านี้ ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้น
2. เปลี่ยนนิสัยการรับประทาน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเลือกแต่อาหารธรรมชาติที่ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป และกำจัดอาหารขยะออกไปจากชีวิตแล้วหันมาทานผักและผลไม้ เพราะจังก์ฟูดเหล่านี้มีแคลอรี่ทีไร้ประโยชน์
3. นอนหลับเพื่อความงาม นอนหลับให้สนิท ขอย้ำว่าต้องสนิท!!! ติดต่อกันให้ได้ 6-8 ชั่วโมง ในแต่ละคืน เพราะเป็นโอกาสที่ร่างกายจะได้พักผ่อนและได้รับการฟื้นฟู พยายามอย่านอนดึก และอย่าลืมดื่มน้ำก่อนเข้านอน 1 แก้ว และดื่มอีกหนึ่งแก้วใหญ่ๆ ตอนตื่นนอน
4. ออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว การออกกำลังกายยังช่วยให้รูปร่างกระชับ แต่วิธีการออกกำลังกายที่ดีนั้นไม่ควรทำอย่างหักโหม โดยเฉพาะในระหว่างที่คุณกำลังล้างพิษ ควรจิบน้ำเป็นระยะๆ ระหว่างออกกำลังกาย
5. ปลุกความสดใสให้ผิวพรรณ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณละเลยการดูแลตัวเอง ผิวของคุณก็จะฟ้อง การล้างพิษจะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาเปล่งปลั่งสดใส ในระหว่างวันลองใช้น้ำแร่สเปรย์เบาๆ ให้ทั่วผิวหน้าแล้วผิวหน้าที่นุ่ม ชุ่มชื้น ก็กลับคืนมา
เพราะทุกวันนี้เราสัมผัสแต่สิ่งแวดล้อมที่เป็นมลพิษ อย่างน้อยการขับไล่สิ่งเหล่านี้ออกจากร่างกายที่ทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ก็เป็นสิ่งที่ไม่น่ามองข้าม จริงไหมคะ....